Article
กลยุทธ์ 4S เสริมพลังธุรกิจ ฝ่าวิกฤตสู่ความสำเร็จ
ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤตหลากหลายรูปแบบ จนส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของระบบเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การส่งออก ระบบโลจิสติกส์ การท่องเที่ยว รวมไปถึงเสถียรภาพทางการเงิน และ พลังงาน ท่ามกลางวิกฤตเหล่านี้ ยังมีกระแสเทคโนโลยีและคลื่นดิจิทัลสึนามิที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตผู้คน ธุรกิจจึงจำเป็นต้องเร่งการปรับตัว ตั้งแต่การบริหารจัดการบุคลากร พัฒนาสินค้าและบริการ ไปจนถึงการสร้าง “Digital Mindset” ปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การทำงานแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำรงอยู่และเติบโตต่อไปบนโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ 💡✅ หนึ่งทางรอดของธุรกิจ คือ การปรับความคิด การเปลี่ยนมุมมองธุรกิจในมิติใหม่ ความกล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรคและความท้าทายที่รออยู่ พร้อมทั้งเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ "ทฤษฎี 4S” ซึ่งจะประกอบไปด้วยอะไรบ้างนั้น แอดมินได้รวบรวมมาให้เรียนรู้กันแล้วในวันนี้!!
💬 Strive to be Antifragile (แข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น)
สร้างธุรกิจให้เปรียบเสมือนต้นไม้ที่หยั่งรากลึกมีความแข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น พร้อมเผชิญหน้ากับทุกวิกฤต ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจค้าปลีกในอดีตที่อาจพึ่งพาหน้าร้านเป็นหลัก แต่เมื่อเกิดวิกฤตที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ช่องทางออนไลน์จึงกลับกลายเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างยอดขายในปัจจุบัน เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่สามารถปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ สร้างรูปแบบและพฤติกรรมการดูหนังผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ ทำให้เข้าถึงผู้ชมได้ทุกที่ทุกเวลา และดึงดูดผู้ชมกลับมาได้มากกว่าเดิม
💬 Stay Ahead (ทำก่อน ก้าวหน้าก่อน)
มองการณ์ไกล คิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ และมองหาโอกาสก่อนใครเพื่อที่จะได้เป็นผู้นำในตลาด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปัญหาด้านพลังงานและวิกฤตราคาน้ำมันทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หากธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือด้วยการใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาด (Green Energy) ล่วงหน้า เช่น การใช้รถไฟฟ้า EV ในการขนส่งสินค้า หรือติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ให้กับโรงงานหรือสำนักงาน ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้เป็นอย่างมาก องค์กรที่มองเห็นโอกาสก่อน คิดก่อน ทำก่อน พร้อมแผนรองรับที่ดี ย่อมได้เปรียบคู่แข่งขันหลายก้าว
💬 Synergy Wins (ผนึกกำลังสร้างความแกร่ง)
เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรทั้งจากภายในและภายนอก เริ่มด้วยการผนึกกำลังภายในองค์กร สร้างความร่วมมือแบบ Generation mix เพื่อให้เกิด Workflow ที่ดี เปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง มอบโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและเหมาะสมขึ้นเป็นผู้นำ พร้อมกันนั้นก็คอยมองหาพันธมิตรจากภายนอกเพื่อเสริมแกร่งให้กับธุรกิจ เติมเต็ม Ecosystem ขององค์กรให้สมบูรณ์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น การร่วมมือกันเพื่อเพิ่มทางเลือกในการให้บริการลูกค้า ผนวกจุดแข็งที่แตกต่างกันเพื่อสร้างคุณค่าเพิ่ม ต่อยอดธุรกิจเดิม นำไปสู่โอกาสในการสร้าง New S-Curve (ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต) ให้กับทุกฝ่าย
💬 Stronger through Failures (เรียนรู้และเติบโตจากความล้มเหลว)
จำไว้ว่าความผิดพลาดและความล้มเหลวคือบทเรียนอันล้ำค่า ที่ช่วยสอนให้เราพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ผลักดันให้กล้าเสี่ยง กล้าลุย กล้าลงมือทำ พร้อมทั้งมีแผนสำรอง เตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ดังคำพูดที่ว่า "Hope for the best, Plan for the worst" คาดหวังสิ่งที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ลืมที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ประสบการณ์จากข้อผิดพลาดต่างๆ จะหล่อหลอมให้องค์กรมีความยืดหยุ่น (Resilience) เมื่อต้องเผชิญวิกฤตใดก็ตาม ธุรกิจที่มีการเตรียมพร้อมที่ดีจะเป็นเจ้าสุดท้ายที่ได้รับผลกระทบ และจะเป็นเจ้าแรกที่ฟื้นตัวเสมอ
ที่มา: techsauce.co
